ฟ้องชู้ คือ อะไร
การฟ้องชู้ คือ การที่ผู้เสียหายได้ถูกใส่ความ ถูกทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมื่น ทำการยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งผู้เสียหายหรือโจทก์จะให้ทนายเขียนคำฟ้อง พร้อมกับรวบรวมพยาน หลักฐานต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อศาล ให้ศาลตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป
การที่คนสองคนและใจสองใจมาพบกันจนทำให้เกิดความรักต่อกัน อยากจะสร้างครอบครัวและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต แต่ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตคู่ ของหลายๆคู่จบลงจนไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต่อไปได้ “คือปัญหาการนอกใจในชีวิตคู่หรือที่ชอบเรียกกันว่า มือที่สาม” กล่าวคือ การฟ้องเรียกค่าทดแทนจากบุคลคลที่ล่วงเกินคู่สมรส แม้ว่าปัญหาการนอกใจในสังคมปัจจุบันจะถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่กฎหมายก็ให้ความคุ้มคลองคู่สมรสที่ถูกนอกใจให้มีสิทธิได้รับค่าทดแทน
ฟ้องชู้ ผิดกฎหมายมาตราไหนบ้าง
มาตรา 1523 วรรคสอง “สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”
วรรคสาม วางหลักว่า ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
มาตรา 1525 ค่าทดแทนตามมาตรา 1523 และมาตรา 1524 นั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์ โดยศาลจะสั่งให้ชำระครั้งเดียวหรือแบ่งชำระเป็นงวดๆ มีกำหนดเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควรก็ได้
วรรคสองในกรณีที่ผู้จะต้องชำระค่าทดแทนเป็นคู่สมรสของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ศาลคำนึงถึงจำนวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจากการแบ่งสินสมรสเพราะการหย่านั้นด้วย
คำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องชู้
คำพิพากษาฎีกาที่ 6553/2537 โจทก์กับสามีโจทก์เป็นสามีภริยาโดยจดทะเบียนสมรสกันตามบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การหย่านอกจากได้ทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่อ 2 คนแล้วยังต้องจดทะเบียนหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1515 อีกด้วย การหย่าจึงจะสมบูรณ์ เมื่อโจทก์กับสามีโจทก์ยังไม่มีการจดทะเบียนหย่า โจทก์กับสามีโจทก์จึงยังเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ดังนั้น แม้จำเลยจะมีข้อตกลงกับโจทก์ว่าหากโจทก์ยอมหย่ากับสามีจำเลยจะไม่ดำเนินคดีอาญากับโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อจำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผย ว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ในทำนองชู้สาวโจทก์ในฐานะภริยาจึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง
สรุปจากฎีกา คู่สมรสฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมีเจตนาตกลงที่จะหย่ากัน แต่ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนหย่ากันให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 4130/2548 ป.พ.พ. มาตรา 1523วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้
สรุปจากฎีกา ถ้ามีการคบชู้กันเกิดขึ้น คู่สมรสอีกฝ่ายสามารถฟ้อง ฝ่ายชู้ เพื่อเรียกค่าทดแทนได้เลย ไม่ต้องคำนึงถึงว่าตนเสียหายเพียงใด
คำพิพากษาฎีกาที่ 964/2562 คำฟ้องโจทก์ขอเรียกค่าทดแทนจากจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้” จากพฤติการณ์ที่สามีโจทก์ไปพบจำเลยที่บ้านเช่าของจำเลยในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง โดยขับรถมาเองหรือมาพร้อมกับจำเลยก็ตาม บางครั้งก็นอนพักค้างคืนที่บ้านจำเลยและกลับออกมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น อีกทั้งสามีโจทก์ยังมีกุญแจที่ใช้เปิดประตูเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง แม้ในยามกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยเข้านอนแล้วก็สามารถเข้าบ้านจำเลยโดยไม่ต้องรอให้จำเลยเปิดประตูบ้านให้ อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าที่จะเป็นเพียงนายจ้างหรือลูกจ้างกันตามปกติธรรมดา การที่จำเลยเป็นหญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว ยินยอมให้สามีโจทก์ซึ่งเป็นชายอื่นเข้าออกบ้านจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง รวมทั้งให้มานอนค้างคืนที่บ้านแล้วออกจากบ้านไปช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยบางครั้งมีการแต่งกายออกไปทำงานพร้อมกัน ย่อมทำให้เพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นที่พบเห็นถึงพฤติกรรมระหว่างจำเลยกับสามีโจทก์เข้าใจได้ว่า จำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน พฤติการณ์เช่นนี้เป็นการที่จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2490/2561 สามีภริยาได้หย่าขาดจากกันแล้ว หากไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ทราบถึงความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวนั้น ก็สามารถเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นหรือหญิงอื่นได้ เนื่องจากการเป็นชู้ดังกล่าวอยู่ในระหว่างที่มีการสมรสกันอยู่ สิทธิในการฟ้องชู้เรียกค่าทดแทนจากชู้จึงไม่หมดสภาพหรือลบล้างไปเพราะการหย่าขาดจากกัน
หลักการพิจารณาว่า ชู้ทำผิดกฎหมายและจะฟ้องชู้ ได้หรือไม่
1.เมื่อสามี จะยื่นฟ้อง ชายชู้
- การฟ้องชายชู้ คือ กรณีที่สามีสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้หรือชายอื่นในฐานะที่ชายชู้หรือชายอื่น นั้นล่วงเกินภรรยาในทำนองชู้สาวได้เท่านั้น โดยไม่จำต้องฟ้องหย่าก่อน
- หลักการพิจารณา คือ เพียงแค่มีชายชู้หรือชายอื่นล่วงเกินภรรยาไปในทำน้องชู้สาว แม้ภรรยาจะสมัครใจหรือยินยอมให้ล่วงเกินก็ตาม เช่น แตะเนื้อต้องตัว จูบ จับต้องบริเวณที่ไม่ควร นอนกอดกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีการร่วมประเวณี สิทธิของสามีย่อมเกิดมีขึ้นทันทีขณะมีการล่วงเกินก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้แล้ว
- นอกจากนี้การที่ภรรยาได้แสดงตนโดยเปิดเผยว่าคบหาหรือเป็นคนรักกับชายชู้ มีพฤติการณ์ที่เป็นที่รู้อยู่ทั่วไปว่าชายชู้คนดังกล่าวเป็นคนรักของตน สามีมีสิทธฟ้องได้เช่นเดียวกัน
- การล่วงเกินภรรยาไปในทำนองชู้สาวนั้น ไม่ว่าจะมีการร่วมประเวณีหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องทำโดยเปิดเผย ไม่ต้องประกาศให้บุคคลอื่นทั่วไปรู้ อาจจะเป็นการแอบคบหา และแอบมีความสัมพันธ์กันในที่ลับสามีก็มีสิทธิฟ้องได้
- นอกจากนี้กรณีที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมหรือชายอื่นมาข่มขืนกระทำชำเราภรรยา ก็ถือว่าเป็นการล่วงเกินทางชู้สาว สามีเรียกค่าทดแทนจากผู้ข่มขืนภรรยาได้ เพราะฉะนั้นการไปข่มขืนหญิงที่มีสามีก็อาจจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนมากกว่าการไปข่มขืนผู้หญิงที่ยังไม่มีสามี เพราะการไปข่มขืนหญิงมีสามีนั้น จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ตัวหญิงที่ถูกข่มขืนและสามีของหญิงนั้นด้วย อย่างไรก็ดีหากหญิงไม่มีพฤติกรรมทำนองชู้สาวกับชายอื่น แสดงว่าชายอื่นก็ไม่มีการกระทำทำนองชู้สาวกับหญิง ก็เรียกค่าทดแทนไม่ได้
2.เมื่อภรรยา จะยื่นฟ้อง หญิงชู้
- ฟ้องหญิงชู้ (ฟ้องเมียน้อย) คือ ภรรยามีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ หรือ ภรรยาน้อยที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ ส่วนการแสดงตนโดยเปิดเผยก็มีตัวอย่าง เช่น
- แสดงความรักหรือแสดงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวโดยเปิดเผยให้กับคนทั่วไปได้รับทราบ เช่น เดินจับมือ โอบกอดในที่สาธารณะ
- คบหากันอย่างเปิดเผย เพื่อนร่วมงานที่ทำงานหรือเพื่อนบ้านทราบดีว่าเป็นคนรักกัน
- จัดงานพิธีมงคลสมรสกัน หรือ ออกงานพิธีการต่าง ๆ ร่วมกันอย่างเปิดเผย
- ลงรูปคู่ คลิปวีดีโอ ตามสื่อโซเชียลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นคนรักกัน
- หากมีพยานหลักฐานชัดเจน ภรรยาก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ได้ โดยไม่ต้องมีการฟ้องหย่าก่อน
ฟ้องชู้ ขั้นตอนการฟ้อง
- มาพบทนายเพื่อเล่าข้อเท็จจริงและทำใบแต่งทนาย
- รวบรวมพยาน หลักฐาน พร้อมทั้งทำบัญชีพยาน
- ทนายเขียนคำฟ้อง
- ศาลรับคำฟ้อง
- นัดไกล่เกี่ย
- นัดสืบพยาน
- ฟังคำพิพากษา
หลักฐานที่สามารถใช้ฟ้องชู้ได้
- หลักฐานการซื้อของให้กับระหว่างชู้กับคู่สมรส
- หลักฐานการโอนเงินให้กันระหว่างชู้กับคู่สมรส
- หลักฐานการถ่ายรูปของชู้ที่เป็นรูปเดี่ยว แต่อยู่ในสถานที่ของคู่สมรส หรือถ่ายรูปติดทรัพย์สินของคู่สมรส
- หลักฐานการสนทนากันระหว่างชู้กับคู่สมรส ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก
- หลักฐานรูปคู่ วิดีโอ ภาพถ่ายที่ได้จาการสืบชู้ ที่แสดงให้เห็นว่าตัวชู้กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน
- หลักฐานการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ของคู่สมรส เช่น ใบเสร็จค่าที่พัก หลักฐานบันทึกการเดินทางจาก Google Map
- พยานบุคคลที่รู้เห็นการเป็นชู้
- โดยหลักฐานการเป็นชู้ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นแสดงว่าชู้กับคู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กัน
เอกสารของโจทก์ ผู้ที่ต้องการฟ้องชู้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
- สำเนาใบสำคัญการสมรส
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ฟ้องคดี
- สำเนาใบเปลื่ยนชื่อของเราและของคู่สมรส(ถ้าเคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุล)
- ทะเบียนบ้านของผู้ฟ้องคดี
- สูติบัตร (ถ้ามีบุตรด้วยกัน)
- หลักฐานเกี่ยวกับอาชีพรายได้ของเราและคู่สมรส เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน
- หลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของเราและคู่สมรส เช่น สำเนาใบปริญญาบัตร
- หลักฐานเกี่ยวกับการมีฐานะทางสังคมของเราและคู่สมรส เช่น การดำรงตำแหน่งนักการเมือง การประกอบอาชีพดารา หรืออาชีพที่มีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก
- หลักฐานเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน ภาพงานแต่ง การ์ดงานแต่ง
จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ได้เท่าไหร่
หลายคนสงสัยว่าควรจะเรียกค่าเสียหายจากชู้เท่าไหร่ดี ซึ่งตรงนี้ควรปรึกษาทนายก่อนจะดีที่สุด เพราะศาลท่านมีหลักเกณฑ์พิจารณาของศาลในการกำหนดค่าเสียหาย โดยศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ในคดี ดังนี้
1.ฐานะทางสังคมและอาชีพการศึกษาของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายสามี ฝ่ายภริยา และฝ่ายชู้
2.จดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน กล่าวคือ คู่ไหนจดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานก็มีโอกาศที่ศาลจะกำหนดค่าทดแทนให้เป้นจำนวนที่สูงตามพฤติการณ์
3.ได้มีการจัดงานแต่งงานกันหรือไม่ ขนาดของงานที่จัด มีแขกมาร่วมงานเป็นจำนวนมากหรือไม่
4.คู่สมรสมีบุตรด้วยกันหรือไม่ หากคู่สมรสมีบุตรด้วยกัน ศาลก็จะกำหนดค่าทดแทนเรื่องค่าเสียหายจากชู้เพิ่มเติมเพราะถือว่าทำให้ครอบครัวแตกแยกและมีผลกระทบต่อตัวบุตรผู้เยาว์
5.ความสัมพันธ์ในครอบครัวก่อนเกิดเหตุการณ์มีชู้
6.พฤติการณ์ในการเป็นชู้มีการเปิดเผยต่อสังคมขนาดไหน และระยะเวลาในการคบชู้ และฝ่ายชู้รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายมีสามีหรือภริยาหรือไม่
7.มีการฟ้องหย่าประกอบไปด้วยหรือไม่ได้ทรัพย์สินจากการฟ้องหย่าไปด้วยหรือไม่
โดยสรุป ศาลจะพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อกำหนดค่าทดแทน ว่าการคบชู้นั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและครอบครัวมากน้อยแค่ไหน และหากดำเนินการฟ้องชู้โดยไม่ประสงค์ฟ้องหย่าจะไม่สามารถเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสที่คบชู้ได้
การฟ้องชู้หรือมือที่สาม ฟ้องศาลไหน
การฟ้องชู้ ถือเป็นคดีแพ่ง จึงต้องพิจารณาคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว โดยมีหลักพิจารณากำหนดค่าทดแทน ว่าฝ่ายชู้ต้องรับผิดชดใช้ค่าทดแทนให้แก่คู่สมรสอีกฝ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าใด
อายุความ การฟ้องชู้
ส่วนอายุความของคดี “การฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าทดแทน”นั้น ตามกฎกมายระบุไว้ว่ามีอายุความ 1 ปี โดยนับจากวันที่ผู้เสียหายทราบถึงความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวนั้น
ฟ้องชู้ ค่าจ้างทนายเท่าไหร่
เนื่องจากทนายความไม่สามารถประกาศหรือโฆษณาค่าจ้างทนายในเว็บไซต์ได้ เนื่องด้วยข้อบังคับของสภาทนายความ ห้ามมิให้ทนายความโฆษณา หรือประกาศอัตราค่าจ้างว่าความ หรือโฆษณาว่าจะไม่เรียกร้องค่าทนาย ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วย มารยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 17
ดังนั้น ขอให้สอบถามค่าจ้างทนายความ ผ่านช่องทาง ต่อไปนี้
- ทางโทรศัพท์ 02-125-2511
- ทางไลน์ @tiwanonlaw
- Facebook : สำนักงานทนายความติวานนท์
- E-mail : info@tiwanonlaw.com
- มาพบทนายด้วยตนเองดีที่สุด เพราะการสอบข้อเท็จจริงที่ดีที่สุดระหว่างทนายความกับลูกความ คือการมานั่งคุยกันต่อหน้า
- การคุยกันทางโทรศัพท์ ทางไลน์ ทางอีเมล์ อย่างไรเสียก็สู้มานั่งคุยกันต่อหน้าไม่ได้ เพราะทำให้เข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆได้ละเอียดกว่า และสามารถซักถาม ทำความเข้าใจและจับกิริยาอาการต่างๆได้ดีที่สุด
- แผนที่สำนักงานทนายความติวานนท์