สำนักงานทนายความติวานนท์
ทนายความ ฟ้องชู้
781

ฟ้องชู้

ฟ้องชู้ คือ อะไร 

 

ฟ้องชู้ ทำได้ไหม คำว่า “ชู้” เป็นคำที่มีความหมายในเชิงลบในสังคมไทย และเป็นเรื่องที่สามารถนำไปสู่ความขัดแย้งและผลกระทบร้ายแรงในชีวิตส่วนตัวของบุคคล โดยเฉพาะในด้านกฎหมายและสังคมที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานและความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส การเข้าใจว่า “ชู้” คือใคร และการฟ้องชู้คืออะไร จะช่วยให้เราเข้าใจในมุมมองทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้น

ชู้ คือ ใคร

ตามกฎหมายไทย “ชู้” หมายถึง บุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่สมรสของผู้อื่นโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรสที่ถูกทิ้งหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุคคลภายนอกครอบครัว ในกรณีนี้ ชู้จะเป็นบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ของคู่สมรสในทางกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นการทำให้เกิดการแตกร้าวของครอบครัว หรือเกิดความเสียหายทางอารมณ์และจิตใจ

ในสังคมไทย ชู้ถือเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณและถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นที่ยอมรับ จึงมักนำไปสู่ปัญหาทางครอบครัวและการดำเนินคดีทางกฎหมาย

การฟ้องชู้ คือ อะไร

การฟ้องชู้ หมายถึง การที่ฝ่ายหนึ่งฟ้องร้องบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่สมรสของตน โดยการฟ้องร้องในกรณีนี้มีวัตถุประสงค์ในการเรียกร้องความเสียหายทางอารมณ์หรือทรัพย์สินจากบุคคลที่เป็นชู้ การฟ้องชู้จะสามารถดำเนินการในรูปแบบของคดีทางแพ่งหรือคดีอาญา ขึ้นอยู่กับประเภทของความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว

ในกรณีที่การฟ้องชู้เป็นคดีทางแพ่ง ผู้ฟ้องสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากชู้ได้ ทั้งนี้ โดยหลักแล้วการฟ้องชู้ในลักษณะนี้จะเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางจิตใจและความเสื่อมเสียทางสังคมที่เกิดจากการที่คู่สมรสมีความสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก การฟ้องชู้ในทางแพ่งนี้สามารถเรียกร้องค่าทดแทนจากการทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือการเสียชื่อเสียงในสังคม

ฟ้องชู้ในทางอาญา

นอกจากนี้ ในบางกรณี การฟ้องชู้อาจเป็นคดีอาญาด้วย หากการกระทำของชู้มีการละเมิดสิทธิของคู่สมรส เช่น การแอบพาภรรยาหรือสามีของผู้อื่นไปมีเพศสัมพันธ์ในทางที่ผิดกฎหมาย ก็สามารถฟ้องร้องได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวหรือการกระทำผิดเกี่ยวกับการแต่งงาน การฟ้องร้องในลักษณะนี้สามารถทำให้ผู้ที่เป็นชู้ได้รับโทษตามกฎหมาย

ขั้นตอนการฟ้องชู้

ในการฟ้องชู้ในทางกฎหมาย ผู้ที่ต้องการฟ้องต้องเตรียมหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ว่า คู่สมรสของตนมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นโดยที่ไม่ได้รับความยินยอม รวมถึงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการกระทำนั้นได้สร้างความเสียหายหรือความเดือดร้อนให้กับตนเอง เช่น หลักฐานการสนทนาหรือการพบปะกันของคู่สมรสกับบุคคลที่เป็นชู้ การนำหลักฐานเหล่านี้ไปยื่นฟ้องศาลจะช่วยให้คดีมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

นอกจากนี้ หากต้องการฟ้องชู้ในทางแพ่ง ผู้ที่ฟ้องต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่า การกระทำของชู้ทำให้เกิดความเสียหายทางอารมณ์และจิตใจ หรือทำให้สูญเสียทรัพย์สินและโอกาสทางการเงิน ซึ่งในบางกรณีการฟ้องชู้อาจต้องการคำให้การจากพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสและชู้เกิดขึ้นจริง

สรุป

การฟ้องชู้เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคู่สมรสของบุคคลหนึ่งมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรส การฟ้องชู้สามารถเกิดขึ้นได้ในทั้งทางแพ่งและอาญา ขึ้นอยู่กับลักษณะของความเสียหายที่เกิดขึ้น และมีขั้นตอนการเตรียมหลักฐานที่สำคัญเพื่อให้คดีมีความน่าเชื่อถือ การดำเนินการฟ้องชู้จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและให้คำแนะนำจากทนายความเพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินไปได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ฟ้องชู้ คือ การที่ผู้เสียหายได้ถูกใส่ความ ถูกทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมื่น ทำการยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งผู้เสียหายหรือโจทก์จะให้ ทนายความ เขียนคำฟ้อง พร้อมกับรวบรวมพยาน หลักฐานต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อศาล ให้ศาลตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป 

การที่คนสองคนและใจสองใจมาพบกันจนทำให้เกิดความรักต่อกัน อยากจะสร้างครอบครัวและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต แต่ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตคู่ ของหลายๆคู่จบลงจนไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต่อไปได้ “คือปัญหาการนอกใจในชีวิตคู่หรือที่ชอบเรียกกันว่า มือที่สาม” กล่าวคือ การฟ้องเรียกค่าทดแทนจากบุคลคลที่ล่วงเกินคู่สมรส แม้ว่าปัญหาการนอกใจในสังคมปัจจุบันจะถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่กฎหมายก็ให้ความคุ้มคลองคู่สมรสที่ถูกนอกใจให้มีสิทธิได้รับค่าทดแทน


ฟ้องชู้ ผิดกฎหมายมาตราไหนบ้าง

 

มาตรา 1523 วรรคสอง “สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”

วรรคสาม วางหลักว่า ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้

มาตรา 1525 ค่าทดแทนตามมาตรา 1523 และมาตรา 1524 นั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์ โดยศาลจะสั่งให้ชำระครั้งเดียวหรือแบ่งชำระเป็นงวดๆ มีกำหนดเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควรก็ได้

วรรคสองในกรณีที่ผู้จะต้องชำระค่าทดแทนเป็นคู่สมรสของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ศาลคำนึงถึงจำนวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจากการแบ่งสินสมรสเพราะการหย่านั้นด้วย

คำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องชู้

คำพิพากษาฎีกาที่ 6553/2537 โจทก์กับสามีโจทก์เป็นสามีภริยาโดยจดทะเบียนสมรสกันตามบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การหย่านอกจากได้ทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่อ 2 คนแล้วยังต้องจดทะเบียนหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1515 อีกด้วย การหย่าจึงจะสมบูรณ์ เมื่อโจทก์กับสามีโจทก์ยังไม่มีการจดทะเบียนหย่า โจทก์กับสามีโจทก์จึงยังเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ดังนั้น แม้จำเลยจะมีข้อตกลงกับโจทก์ว่าหากโจทก์ยอมหย่ากับสามีจำเลยจะไม่ดำเนินคดีอาญากับโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อจำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผย ว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ซึ่งยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ในทำนองชู้สาวโจทก์ในฐานะภริยาจึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง

สรุปจากฎีกา คู่สมรสฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมีเจตนาตกลงที่จะหย่ากัน แต่ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนหย่ากันให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ 

คำพิพากษาฎีกาที่ 4130/2548 ป.พ.พ. มาตรา 1523วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้

สรุปจากฎีกา ถ้ามีการคบชู้กันเกิดขึ้น คู่สมรสอีกฝ่ายสามารถฟ้อง ฝ่ายชู้ เพื่อเรียกค่าทดแทนได้เลย ไม่ต้องคำนึงถึงว่าตนเสียหายเพียงใด

คำพิพากษาฎีกาที่ 964/2562 คำฟ้องโจทก์ขอเรียกค่าทดแทนจากจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้” จากพฤติการณ์ที่สามีโจทก์ไปพบจำเลยที่บ้านเช่าของจำเลยในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง โดยขับรถมาเองหรือมาพร้อมกับจำเลยก็ตาม บางครั้งก็นอนพักค้างคืนที่บ้านจำเลยและกลับออกมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น อีกทั้งสามีโจทก์ยังมีกุญแจที่ใช้เปิดประตูเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง แม้ในยามกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยเข้านอนแล้วก็สามารถเข้าบ้านจำเลยโดยไม่ต้องรอให้จำเลยเปิดประตูบ้านให้ อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าที่จะเป็นเพียงนายจ้างหรือลูกจ้างกันตามปกติธรรมดา การที่จำเลยเป็นหญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว ยินยอมให้สามีโจทก์ซึ่งเป็นชายอื่นเข้าออกบ้านจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง รวมทั้งให้มานอนค้างคืนที่บ้านแล้วออกจากบ้านไปช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยบางครั้งมีการแต่งกายออกไปทำงานพร้อมกัน ย่อมทำให้เพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นที่พบเห็นถึงพฤติกรรมระหว่างจำเลยกับสามีโจทก์เข้าใจได้ว่า จำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน พฤติการณ์เช่นนี้เป็นการที่จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2490/2561 สามีภริยาได้หย่าขาดจากกันแล้ว หากไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ทราบถึงความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวนั้น ก็สามารถเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นหรือหญิงอื่นได้ เนื่องจากการเป็นชู้ดังกล่าวอยู่ในระหว่างที่มีการสมรสกันอยู่ สิทธิในการฟ้องชู้เรียกค่าทดแทนจากชู้จึงไม่หมดสภาพหรือลบล้างไปเพราะการหย่าขาดจากกัน

หลักการพิจารณาว่า ชู้ทำผิดกฎหมายและจะฟ้องชู้ ได้หรือไม่

1.เมื่อสามี จะยื่นฟ้อง ชายชู้

  • การฟ้องชายชู้ คือ กรณีที่สามีสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้หรือชายอื่นในฐานะที่ชายชู้หรือชายอื่น นั้นล่วงเกินภรรยาในทำนองชู้สาวได้เท่านั้น โดยไม่จำต้องฟ้องหย่าก่อน
  • หลักการพิจารณา คือ เพียงแค่มีชายชู้หรือชายอื่นล่วงเกินภรรยาไปในทำน้องชู้สาว แม้ภรรยาจะสมัครใจหรือยินยอมให้ล่วงเกินก็ตาม เช่น แตะเนื้อต้องตัว จูบ จับต้องบริเวณที่ไม่ควร นอนกอดกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีการร่วมประเวณี สิทธิของสามีย่อมเกิดมีขึ้นทันทีขณะมีการล่วงเกินก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้แล้ว
  • นอกจากนี้การที่ภรรยาได้แสดงตนโดยเปิดเผยว่าคบหาหรือเป็นคนรักกับชายชู้ มีพฤติการณ์ที่เป็นที่รู้อยู่ทั่วไปว่าชายชู้คนดังกล่าวเป็นคนรักของตน สามีมีสิทธฟ้องได้เช่นเดียวกัน
  • การล่วงเกินภรรยาไปในทำนองชู้สาวนั้น ไม่ว่าจะมีการร่วมประเวณีหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องทำโดยเปิดเผย ไม่ต้องประกาศให้บุคคลอื่นทั่วไปรู้ อาจจะเป็นการแอบคบหา และแอบมีความสัมพันธ์กันในที่ลับสามีก็มีสิทธิฟ้องได้
  • นอกจากนี้กรณีที่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมหรือชายอื่นมาข่มขืนกระทำชำเราภรรยา ก็ถือว่าเป็นการล่วงเกินทางชู้สาว สามีเรียกค่าทดแทนจากผู้ข่มขืนภรรยาได้ เพราะฉะนั้นการไปข่มขืนหญิงที่มีสามีก็อาจจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนมากกว่าการไปข่มขืนผู้หญิงที่ยังไม่มีสามี เพราะการไปข่มขืนหญิงมีสามีนั้น จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ตัวหญิงที่ถูกข่มขืนและสามีของหญิงนั้นด้วย อย่างไรก็ดีหากหญิงไม่มีพฤติกรรมทำนองชู้สาวกับชายอื่น แสดงว่าชายอื่นก็ไม่มีการกระทำทำนองชู้สาวกับหญิง ก็เรียกค่าทดแทนไม่ได้

 

2.เมื่อภรรยา จะยื่นฟ้อง หญิงชู้

  • ฟ้องหญิงชู้ (ฟ้องเมียน้อย) คือ ภรรยามีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ หรือ ภรรยาน้อยที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ ส่วนการแสดงตนโดยเปิดเผยก็มีตัวอย่าง เช่น
  • แสดงความรักหรือแสดงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวโดยเปิดเผยให้กับคนทั่วไปได้รับทราบ เช่น เดินจับมือ โอบกอดในที่สาธารณะ
  • คบหากันอย่างเปิดเผย เพื่อนร่วมงานที่ทำงานหรือเพื่อนบ้านทราบดีว่าเป็นคนรักกัน
  • จัดงานพิธีมงคลสมรสกัน หรือ ออกงานพิธีการต่าง ๆ ร่วมกันอย่างเปิดเผย
  • ลงรูปคู่ คลิปวีดีโอ ตามสื่อโซเชียลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นคนรักกัน
  • หากมีพยานหลักฐานชัดเจน ภรรยาก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้ได้ โดยไม่ต้องมีการฟ้องหย่าก่อน

 

ขั้นตอนการฟ้องชู้

 

  1. มาพบทนายเพื่อเล่าข้อเท็จจริงและทำใบแต่งทนาย 
  2. รวบรวมพยาน หลักฐาน พร้อมทั้งทำบัญชีพยาน
  3. ทนายเขียนคำฟ้อง 
  4. ศาลรับคำฟ้อง
  5. นัดไกล่เกี่ย
  6. นัดสืบพยาน
  7. ฟังคำพิพากษา

ขั้นตอนการฟ้องชู้ อย่างละเอียด

การฟ้องชู้คือกระบวนการทางกฎหมายที่ช่วยให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการมีชู้จากคู่สมรสหรือคู่รักสามารถเรียกร้องสิทธิและความเป็นธรรม โดยการฟ้องร้องสามารถดำเนินการได้ทั้งในทางแพ่งและอาญา ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น ขั้นตอนการฟ้องชู้มีความซับซ้อนและต้องมีการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

1. การปรึกษากับทนายความ

ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการปรึกษากับทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในคดีชู้ เพื่อให้ทนายความสามารถประเมินสถานการณ์และให้คำแนะนำที่เหมาะสม ทนายความจะช่วยในการตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องชู้ และช่วยเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นในการฟ้องร้อง

2. การรวบรวมหลักฐาน

หลักฐานเป็นสิ่งสำคัญในการฟ้องชู้ เนื่องจากการฟ้องจะต้องพิสูจน์ว่ามีการกระทำผิดจริง การรวบรวมหลักฐานที่เป็นตัวพิสูจน์การมีชู้ เช่น ข้อความแชท รูปภาพ หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่สามารถยืนยันได้ว่าคู่สมรสมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น นอกจากนี้ พยานที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงก็มีความสำคัญในการเสริมสร้างหลักฐานที่แข็งแรง

3. การยื่นฟ้องศาล

หลังจากรวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทนายความจะช่วยยื่นฟ้องต่อศาลในกรณีที่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำผิดหรือขอคำพิพากษาในทางอาญา การฟ้องชู้ในกรณีแพ่งมักจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายทางจิตใจจากการถูกทำร้ายความรู้สึก ในขณะที่การฟ้องในทางอาญาอาจมีโทษปรับหรือจำคุกขึ้นอยู่กับกรณี

4. การพิจารณาคดีและการพิจารณาหลักฐาน

เมื่อฟ้องชู้ไปแล้ว ศาลจะเริ่มพิจารณาคดี โดยทนายความจะช่วยเสนอมุมมองและหลักฐานต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมมาให้กับศาล การพิจารณาหลักฐานจะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินคดี ศาลจะพิจารณาถึงหลักฐานทั้งหมดที่ฝ่ายต่าง ๆ นำเสนอ และจะมีการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาคดี

5. การรอคำพิพากษา

หลังจากการพิจารณาคดีแล้ว ศาลจะมีการตัดสินคดี การรอคำพิพากษาอาจใช้เวลาในบางกรณี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดีและการรวบรวมหลักฐานที่เป็นประโยชน์ หากศาลตัดสินให้การฟ้องชู้เป็นผลสำเร็จ ผู้ฟ้องจะได้รับค่าเสียหายตามที่ศาลพิจารณา

6. การบังคับคดีหลังจากคำพิพากษา

หากศาลตัดสินให้ฝ่ายผู้ฟ้องชู้ชนะคดีและต้องการให้คู่กรณีจ่ายค่าเสียหายหรือรับโทษตามคำพิพากษา ผู้ฟ้องอาจต้องดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งอาจรวมถึงการยึดทรัพย์สินหรือติดตามการชำระเงินค่าชดเชย

สรุป

การฟ้องชู้เป็นกระบวนการที่สามารถช่วยให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความยุติธรรมจากการกระทำที่ทำให้เสียหายทางจิตใจและสิทธิส่วนบุคคล ขั้นตอนการฟ้องชู้ประกอบด้วยการปรึกษากับทนายความ การรวบรวมหลักฐาน การยื่นฟ้องศาล และการพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องมีการเตรียมการอย่างดีเพื่อให้การฟ้องร้องมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในที่สุด

หลักฐานที่สามารถใช้ฟ้องชู้ได้ (หลักฐาน ฟ้องชู้)
  • หลักฐานการซื้อของให้กับระหว่างชู้กับคู่สมรส
  • หลักฐานการโอนเงินให้กันระหว่างชู้กับคู่สมรส
  • หลักฐานการถ่ายรูปของชู้ที่เป็นรูปเดี่ยว แต่อยู่ในสถานที่ของคู่สมรส หรือถ่ายรูปติดทรัพย์สินของคู่สมรส
  • หลักฐานการสนทนากันระหว่างชู้กับคู่สมรส ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก
  • หลักฐานรูปคู่ วิดีโอ ภาพถ่ายที่ได้จาการสืบชู้ ที่แสดงให้เห็นว่าตัวชู้กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน
  • หลักฐานการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ของคู่สมรส เช่น ใบเสร็จค่าที่พัก หลักฐานบันทึกการเดินทางจาก Google Map
  • พยานบุคคลที่รู้เห็นการเป็นชู้
  • โดยหลักฐานการเป็นชู้ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นแสดงว่าชู้กับคู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กัน

 

เอกสารของโจทก์ ผู้ที่ต้องการฟ้องชู้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ? หลักฐาน ฟ้องชู้
  • สำเนาใบสำคัญการสมรส
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ฟ้องคดี
  • สำเนาใบเปลื่ยนชื่อของเราและของคู่สมรส(ถ้าเคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุล)
  • ทะเบียนบ้านของผู้ฟ้องคดี
  • สูติบัตร (ถ้ามีบุตรด้วยกัน)
  • หลักฐานเกี่ยวกับอาชีพรายได้ของเราและคู่สมรส เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน
  • หลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของเราและคู่สมรส เช่น สำเนาใบปริญญาบัตร
  • หลักฐานเกี่ยวกับการมีฐานะทางสังคมของเราและคู่สมรส เช่น การดำรงตำแหน่งนักการเมือง การประกอบอาชีพดารา หรืออาชีพที่มีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก
  • หลักฐานเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน ภาพงานแต่ง การ์ดงานแต่ง

จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ได้เท่าไหร่ 

หลายคนสงสัยว่าควรจะเรียกค่าเสียหายจากชู้เท่าไหร่ดี ซึ่งตรงนี้ควรปรึกษาทนายก่อนจะดีที่สุด เพราะศาลท่านมีหลักเกณฑ์พิจารณาของศาลในการกำหนดค่าเสียหาย โดยศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ในคดี ดังนี้

1.ฐานะทางสังคมและอาชีพการศึกษาของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายสามี ฝ่ายภริยา และฝ่ายชู้

2.จดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน กล่าวคือ คู่ไหนจดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานก็มีโอกาศที่ศาลจะกำหนดค่าทดแทนให้เป้นจำนวนที่สูงตามพฤติการณ์

3.ได้มีการจัดงานแต่งงานกันหรือไม่ ขนาดของงานที่จัด มีแขกมาร่วมงานเป็นจำนวนมากหรือไม่

4.คู่สมรสมีบุตรด้วยกันหรือไม่ หากคู่สมรสมีบุตรด้วยกัน ศาลก็จะกำหนดค่าทดแทนเรื่องค่าเสียหายจากชู้เพิ่มเติมเพราะถือว่าทำให้ครอบครัวแตกแยกและมีผลกระทบต่อตัวบุตรผู้เยาว์

5.ความสัมพันธ์ในครอบครัวก่อนเกิดเหตุการณ์มีชู้

6.พฤติการณ์ในการเป็นชู้มีการเปิดเผยต่อสังคมขนาดไหน และระยะเวลาในการคบชู้ และฝ่ายชู้รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายมีสามีหรือภริยาหรือไม่

7.มีการฟ้องหย่าประกอบไปด้วยหรือไม่ได้ทรัพย์สินจากการฟ้องหย่าไปด้วยหรือไม่

โดยสรุป ศาลจะพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อกำหนดค่าทดแทน ว่าการคบชู้นั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและครอบครัวมากน้อยแค่ไหน และหากดำเนินการฟ้องชู้โดยไม่ประสงค์ฟ้องหย่าจะไม่สามารถเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสที่คบชู้ได้


การฟ้องชู้หรือมือที่สาม ฟ้องศาลไหน

การฟ้องชู้ ถือเป็นคดีแพ่ง จึงต้องพิจารณาคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว โดยมีหลักพิจารณากำหนดค่าทดแทน ว่าฝ่ายชู้ต้องรับผิดชดใช้ค่าทดแทนให้แก่คู่สมรสอีกฝ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าใด

อายุความ การฟ้องชู้

ส่วนอายุความของคดี “การฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าทดแทน”นั้น ตามกฎกมายระบุไว้ว่ามีอายุความ 1 ปี โดยนับจากวันที่ผู้เสียหายทราบถึงความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวนั้น

ค่าใช้จ่ายในการฟ้องชู้ 

การฟ้องชู้ จำเป็นต้องให้ทนายเขียนคำฟ้องยื่นต่อศาล โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการฟ้องชู้ จะประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 

  1. ค่าจ้างทนายฟ้องชู้ โดยทั่วไปค่าทนายทำคดีฟ้องชู้จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดี ประสบการณ์ของทนายความและนโยบายค่าทนายความของแต่ละสำนักงาน 
  2. ค่าธรรมเนียมของศาลในการฟ้องชู้ เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเบื้องต้นว่าควรจะเรียกค่าเสียหายจากชู้เท่าไหร่ดี 
    -หากเรียกค่าเสียหายจากชู้ไม่เกิน 300,000 บาท ค่าธรรมเนียมของศาลมักจะไม่เกิน 2,000 บาท
    -หากเรียกค่าเสียหายจากชู้มากกว่า 300,000 บาท โจทก์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมร้อยละ 2 ของยอดฟ้อง ยกตัวอย่างเช่น ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ 1,000,000 บาท จะเสียค่าธรรมเนียมศาล 1,000,000 X 0.02 = 20,000 บาท
  3. ค่าเดินทางไปศาล ในการฟ้องชู้อาจจะต้องเดินทางไปศาล ประมาณ 3-4 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าเสียโอกาสจากการลางาน หรือ หยุดงานไปศาล 
ฟ้องชู้ ค่าจ้างทนายเท่าไหร่ 

เนื่องจากทนายความไม่สามารถประกาศหรือโฆษณาค่าจ้างทนายในเว็บไซต์ได้ เนื่องด้วยข้อบังคับของสภาทนายความ ห้ามมิให้ทนายความโฆษณา หรือประกาศอัตราค่าจ้างว่าความ หรือโฆษณาว่าจะไม่เรียกร้องค่าทนาย ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วย มารยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 17

ดังนั้น ขอให้สอบถามค่าจ้างทนายความ ผ่านช่องทาง ต่อไปนี้ 

  • ทางโทรศัพท์ 02-125-2511
  • ทางไลน์ @tiwanonlaw
  • Facebook : สำนักงานทนายความติวานนท์
  • E-mail : info@tiwanonlaw.com
  • มาพบทนายด้วยตนเองดีที่สุด เพราะการสอบข้อเท็จจริงที่ดีที่สุดระหว่างทนายความกับลูกความ คือการมานั่งคุยกันต่อหน้า
  • การคุยกันทางโทรศัพท์ ทางไลน์ ทางอีเมล์ อย่างไรเสียก็สู้มานั่งคุยกันต่อหน้าไม่ได้ เพราะทำให้เข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆได้ละเอียดกว่า และสามารถซักถาม ทำความเข้าใจและจับกิริยาอาการต่างๆได้ดีที่สุด
  • แผนที่ สำนักงานทนายความติวานนท์

สำนักงานทนายความติวานนท์ ให้บริการฟ้องคดีแพ่ง ฟ้องคดีอาญา ฟ้องหมิ่นประมาท ฟ้องชู้ ฟ้องขับไล่ ฟ้องลูกหนี้
การทำงานครอบคลุมถึง การออกโนติส การฟ้องคดีโดยตรง การทำงานร่วมกับตำรวจและพนักงานอัยการ
การร้องขอความเป็นธรรม การประกันตัวผู้ต้องหา การไต่สวนมูลฟ้อง การเขียนคำให้การของจำเลย การฟ้องแย้ง
การยื่นอุทธรณ์และการยื่นฎีกา รวมทั้งการสืบทรัพย์ การบังคับคดี และการตั้งเรื่องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด

อัตราค่าจ้างทนาย ต้องสอบถามทางบริษัทเท่านั้น สามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่อไปนี้

สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อทนาย

โทร

แชทไลน์

อีเมล

สำนักงาน

ทนายความ สำนักงานทนายความ สำนักงานกฏหมาย
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
อ่านบทความล่าสุด