ฟ้องชู้ แต่ชู้ไม่มีเงินจ่าย

การฟ้องชู้ คืออะไร 

ฟ้องชู้ แต่ชู้ไม่มีเงินจ่าย การที่คนสองคนและใจสองใจมาพบกันจนทำให้เกิดความรักต่อกัน อยากจะสร้างครอบครัวและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต แต่ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตคู่ ของหลายๆคู่จบลงจนไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต่อไปได้ “คือปัญหาการนอกใจในชีวิตคู่หรือที่ชอบเรียกกันว่า มือที่สาม” กล่าวคือ การฟ้องเรียกค่าทดแทนจากบุคลคลที่ล่วงเกินคู่สมรส แม้ว่าปัญหาการนอกใจในสังคมปัจจุบันจะถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่กฎหมายก็ให้ความคุ้มคลองคู่สมรสที่ถูกนอกใจให้มีสิทธิได้รับค่าทดแทน

 อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับมาตรากฏหมายในการ ฟ้องชู้

 ชู้ คืออะไร

ชายที่ร่วมประเวณีด้วยเมียเขา เรียกว่า เป็นชู้ หญิงที่ยังมีสามี อยู่แล้วร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า มีชู้เรียกชายหรือ หญิงที่ใฝ่ในทางชู้สาวว่า เจ้าชู้

 

เงื่อนไขการฟ้องชู้หรือมือที่สาม/หลักฐานในการฟ้องชู้

ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม กำหนดไว้ว่าบุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิ์และเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน

เมื่อวันที่  18 มิถุนายน 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ในเรื่องพิจารณาที่ 4/2567 ให้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภรรยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภรรยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”  ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน

การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศจะกระทำมิได้” 

แต่ให้บังคับใช้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523  ต่ออีก 360 วัน ดังนั้นระยะเวลาที่ถูกวางไว้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 ก็จะสิ้นผลไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

หลักเกณฑ์และเงือนไขเดิมในการฟ้องชู้ที่กำหนดว่า กรณีสามีฟ้องชู้คือฝ่ายชายเป็นฝ่ายฟ้องนั้น สามารถฟ้องได้ทันทีหากมีชายใดล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาว กรณีภริยาฟ้องชู้คือฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายฟ้องนั้น สามารถฟ้องได้หากมีการคบกับชู้โดยเปิดเผย  

หลักเกณฑ์และเงือนไขในการฟ้องชู้ดังกล่าวจะใช้บังคับไม่ได้ เมื่อพ้นวันที่ 12 มิถุนายน 2568

-ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสามี(ชาย)หรือฝ่ายภริยา(หญิง)ก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากบุคคลที่สามที่มาเป็นชู้กับคู่สมรสของแต่ละฝ่าย โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะทำกันโดยไม่เปิดเผยหรือในที่ลับ ก็สามารถฟ้องให้บุคคลที่สามชำระค่าทดแทนต่อศาลได้

-หลักฐานเกี่ยวกับการเป็นชู้ เพื่อยืนและเสนอต่อศาล มีดังนี้

1.หลักฐานการสนทนากันระหว่างชู้กับคู่สมรสผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Facebook Line Instagram 

2.หลักฐานรูปถ่าย วีดีโอ ภาพถ่ายที่ได้จากการสืบชู้ รวมถึงคลิปหลุดที่ไม่ยอมให้เปิดเผย ที่แสดงให้เห็นว่าบุคลคลที่สาม “ชู้”กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน  หลักฐานการถ่ายรูปเดี่ยวของฝ่ายชู้ ที่ถ่ายติดทรัพย์สินหรือสถานที่ของคู่สมรส เช่น ถ่ายในบ้าน คอนโด ถ่ายติดกับรถยนต์ นาฬิกา ที่เป็นของคู่สมรส

3.หลักฐานการเดินทางไปสถานที่ต่างๆของคู่สมรส เช่น บันทึกการเดินทาง Google Map หลักฐานการเข้าพักโรงแรม ใบเสร็จค่าที่โรงแรม

4.หลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินหรือการซื้อของให้กัน ระหว่างคู่สมรส เช่น สลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าสินค้า

5.พยานที่รู้เห็นการเป็นชู้ ใครก็ได้ที่สามารถยืนยันว่าฝ่ายชู้กับคู่สมรสมีความสัมพันธ์กันในทางเป็นจชู้กัน

ดังนั้น หลักฐานดังกล่าวข้างต้นถ้านำมารวมกันก็เพียงพอที่จะฟ้องชู้ให้ใช้ค่าทดแทนได้

 

การฟ้องชู้หรือมือที่สาม ฟ้องศาลไหน

การฟ้องชู้ ถือเป็นคดีแพ่ง จึงต้องพิจารณาคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว โดยมีหลักพิจารณากำหนดค่าทดแทน ว่าฝ่ายชู้ต้องรับผิดชดใช้ค่าทดแทนให้แก่คู่สมรสอีกฝ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าใด

 

โดยมีหลักเกณฑ์พิจารณาของศาลในการกำหนดค่าทดแทนโดยให้ศาลกำหนดพฤติการณ์ในคดี ดังนี้

มาตรา 1523 วรรคสอง กำหนดว่า สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้

วรรคสาม วางหลักว่า ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้

1.ฐานะทางสังคมและอาชีพการศึกษาของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายสามี ฝ่ายภริยา และฝ่ายชู้

2.จดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน กล่าวคือ คู่ไหนจดทะเบียนสมรสกันมาเป็นระยะเวลานานก็มีโอกาศที่ศาลจะกำหนดค่าทดแทนให้เป้นจำนวนที่สูงตามพฤติการณ์

3.ได้มีการจัดงานแต่งงานกันหรือไม่ ขนาดของงานที่จัด มีแขกมาร่วมงานเป็นจำนวนมากหรือไม่

4.คู่สมรสมีบุตรด้วยกันหรือไม่ หากคู่สมรสมีบุตรด้วยกัน ศาลก็จะกำหนดค่าทดแทนเรื่องค่าเสียหายจากชู้เพิ่มเติมเพราะถือว่าทำให้ครอบครัวแตกแยกและมีผลกระทบต่อตัวบุตรผู้เยาว์

5.ความสัมพันธ์ในครอบครัวก่อนเกิดเหตุการณ์มีชู้

6.พฤติการณ์ในการเป็นชู้มีการเปิดเผยต่อสังคมขนาดไหน และระยะเวลาในการคบชู้ และฝ่ายชู้รู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายมีสามีหรือภริยาหรือไม่

7.มีการฟ้องหย่าประกอบไปด้วยหรือไม่ได้ทรัพย์สินจากการฟ้องหย่าไปด้วยหรือไม่

-ดังนี้ โดยศาลจะพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อกำหนดค่าทดแทน ว่าการคบชู้นั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื้อเสียงและครอบครัวมากน้อยแค่ไหน และหากดำเนินการฟ้องชู้โดยไม่ประสงค์ฟ้องหย่าจะไม่สามารถเรียกค่าทดแทนจากคู่สมรสที่คบชู้ได้

 

การศาลพิพากษาให้ฝ่ายชู้ จ่ายค่าทดแทน ฟ้องชู้ แต่ชู้ไม่มีเงินจ่าย จะทำอย่างไร

ฟ้องชู้ แต่ชู้ไม่มีเงินจ่าย เป็นคดีแพ่ง และเป็นคดีประเภทที่ต้องขึ้นศาลชำนัญพิเศษ คือ ศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งเป็นศาลที่จัดตั้งพิเศษสำหรับพิจารณาคดีครอบครัว เช่น คดีหย่า คดีเรื่องบุตรผู้เยาว์ คดีข้อตั้งผู้อนุบาล และรวมถึงคดีชู้ ก็เป็นคดีที่ต้องขึ้นพิจารณาที่ศาลเยาวชนฯเช่นเดียวกัน

กระบวนพิจารณาที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จะเน้นการไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความกัน มากกว่าการจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และผู้พิพากษาก็จะมีเพิ่มมาจากคดีปกติ 2 คน คือผู้พิพากษาสมทบคดีครอบครัว และกระบวนพิจารณาต่างๆก็จะต่างจากคดีแพ่งปกติทั่วไป

เมื่อมีคำพิพากษาของศาลหรือคำสั่งศาลแล้ว เราจะรอวันว่าเมื่อไหร่เจ้าหนี้จะหมดสิทธิเรื่องของการบังคับคดี ที่พูดกันคือ การยึดทรัพย์ ระยะเวลาของการบังคับคดีนับอย่างไรและมีเวลาเท่าไหร่

ป.วิ.แพ่ง มาตรา 274 ระยะเวลาบังคับคดี 10 ปี นับแต่มีคำพิพากษา หรือคำสั่งศาล

วิธีการร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง มี 3 ขั้นตอน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องปฏิบัติให้ครบ ดังนี้

1เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี

2เจ้าหนี้ต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว

3เจ้าหนี้ต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์สิน ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา

การบังคับคดี  คดีที่คู่ความฝ่ายหนึ่งฟ้องคดีต่อศาล เพื่อเรียกให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งชดใช้ค่าเสียหายเป็นตัวเงิน หรือให้กระทำ หรือไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหากศาล ตัดสินให้ฝ่ายใดชนะแล้วคู่ความฝ่ายที่แพ้(ฝ่ายที่เป็นชู้) ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง หรือตามทำตามคำพิพากษาของศาลจึงต้องมีการบังคับให้ปฏิบัติตาม ซึ่งการที่จะบังคับดังกล่าวคู่ความที่ชนะคดีจะไปบังคับเองไม่ได้ แต่จะต้องกระทำ โดยขอให้เจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายกำ หนดอำนาจ และหน้าที่ไว้ซึ่งก็คือ “เจ้าพนักงานบังคับคดี” โดยปัจจุบัน ก็คือ เจ้าพนักงานที่สังกัดกรมบังคับคดี

วิธีการบังคับคดีจะ ต้องขอให้ออกหมายบังคับคดีและ แต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อน เมื่อศาลดำเนินการให้แล้ว ท่านก็ไปติดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการบังคับคดีให้ ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ของคู่ความฝ่ายที่เป็นชู้ให้ 

การที่จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำ การยึดทรัพย์ให้ ท่านต้องเตรียมหลักฐานเพื่อประกอบการบังคับคดีไปพบกับ เจ้าพนักงานบังคับคดี ณ ที่ทำการด้วย ดังนี้ 

 กรณีจะยึดอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง  อาคารชุด/ห้องชุด ส่วนควบที่คิดกับที่ดิน

 กรณีจะยึดสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ เงินสด เงินในบัญชีเงินฝากะนาคาร ทรัพย์สินภายในบ้าน 

 

ค่าจ้างทนาย ฟ้องชู้ แต่ชู้ไม่มีเงินจ่าย ราคาเท่าไหร่

เนื่องจากทนายความไม่สามารถประกาศหรือโฆษณา ค่าจ้างทนาย ในเว็บไซต์ได้ เนื่องด้วยข้อบังคับของสภาทนายความ ห้ามมิให้ทนายความโฆษณา หรือประกาศอัตราค่าจ้างว่าความ หรือโฆษณาว่าจะไม่เรียกร้องค่าทนาย ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วย มารยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 17

สอบถามค่าจ้างทนายความ ในการฟ้องลูกหนี้ ผ่านช่องทางไหนได้บ้าง

ทางโทรศัพท์ 02-1252511

ทางไลน์ @tiwanonlaw

Facebook : สำนักงานทนายความติวานนท์

E-mail : info@tiwanonlaw.com

แผนที่ สำนักงานทนายความติวานนท์ 

ขอแนะนำให้ท่าน มาพบทนายด้วยตนเองดีที่สุด เพราะการสอบข้อเท็จจริงที่ดีที่สุดระหว่างทนายความกับลูกความ คือการมานั่งคุยกันต่อหน้า

การคุยกันทางโทรศัพท์ ทางไลน์ ทางอีเมล์ อย่างไรเสียก็สู้มานั่งคุยกันต่อหน้าไม่ได้ เพราะทำให้เข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆได้ละเอียดกว่า และสามารถซักถาม ทำความเข้าใจและจับกิริยาอาการต่างๆได้ดีที่สุด