สำนักงานทนายความติวานนท์
ทนายความ ฟ้องคดีแพ่ง
107

ฟ้องคดีแพ่ง

ฟ้องคดีแพ่ง คืออะไร

 

ฟ้องคดีแพ่ง เมื่อเราถูกโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิ์ ถูกละเมิด จากบุคลคลอื่นทำให้เราได้รับความเสียหาย แต่เมื่อเราต้องการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายก็ไม่รู้วิธีและขั้นตอนในการดำเนินการว่าต้องเริ่มทำอะไรก่อน พอไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเป็นคดีแพ่งเราจะได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยว่าไม่สามารถดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นคดีแพ่งให้เราไปดำเนินคดีเอง ซึ่งคดีแพ่งมีความหมายดังนี้  

 ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55  เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่ง หรือบุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจได้ ตาบทบัญญัติแห่งกฎหมายแพ่งและประมวลกฎหมายนี้

คดีแพ่ง เป็นคดีที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของคน 2 ฝ่าย ที่ผิดสัญญากันหรือต้องการโต้แย้งสิทธิ หน้าที่กัน หรือเป็นคดีที่มีการร้องขอต่อศาลให้ศาลรับรองสิทธิบางอย่างให้ (เอกชนกับเอกชน)

การฟ้องคดีแพ่งคืออะไร

การฟ้องคดีแพ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลหรือองค์กรมีข้อพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางอาญา การฟ้องคดีแพ่งมักจะเป็นกรณีที่เกิดจากการละเมิดสัญญาหรือการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งการฟ้องคดีนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ศาลตัดสินให้หนึ่งในฝ่ายที่มีสิทธิได้รับความเสียหายจากการกระทำของอีกฝ่าย และให้มีการชดใช้ค่าทดแทน หรือการปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมาย

การฟ้องคดีแพ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี เช่น การฟ้องร้องเกี่ยวกับหนี้สิน การขอแบ่งทรัพย์สิน การฟ้องกรณีที่เกิดจากการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งการฟ้องร้องเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรม เช่น การหลอกลวง การทำให้เสียชื่อเสียง หรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น การฟ้องคดีแพ่งมีการดำเนินการที่มุ่งเน้นการหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างสองฝ่าย โดยไม่เกี่ยวข้องกับบทลงโทษทางอาญา

ในการฟ้องคดีแพ่งนั้น การที่บุคคลหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสามารถฟ้องคดีได้ จำเป็นต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาหรือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้น ในการฟ้องคดีแพ่งนั้น จะมีการเรียกร้องให้ศาลพิจารณาหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น สัญญา เอกสารทางการเงิน ใบเสร็จ หรือพยานหลักฐานอื่นๆ ที่สามารถยืนยันข้อกล่าวหาหรือข้อเรียกร้องได้ โดยศาลจะทำการพิจารณาและตัดสินตามหลักฐานที่นำเสนอ และในบางกรณีอาจมีการเจรจาหรือการไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย

กระบวนการฟ้องคดีแพ่งมักจะเริ่มต้นจากการยื่นฟ้องต่อศาล โดยผู้ฟ้องจะต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นและชี้แจงรายละเอียดของข้อพิพาทให้ชัดเจน หลังจากนั้นศาลจะทำการพิจารณาคดี โดยทั้งสองฝ่ายจะได้รับโอกาสในการนำเสนอหลักฐานและพยานบุคคล ในบางกรณีอาจมีการไกล่เกลี่ยก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาคดีในศาล หากไม่สามารถหาข้อตกลงได้ การพิจารณาคดีจะดำเนินไปจนถึงการตัดสินคดี

การฟ้องคดีแพ่งมีหลายขั้นตอนและสามารถใช้เวลานาน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดีและจำนวนของพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การฟ้องคดีแพ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของบุคคลและรักษาความเป็นธรรมในสังคม การใช้กระบวนการฟ้องคดีนี้จึงจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย เพื่อให้การฟ้องคดีเกิดประโยชน์สูงสุดและช่วยในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ

การฟ้องคดีแพ่งไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือทางกฎหมายในการหาข้อแก้ไขในกรณีพิพาทเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิและหน้าที่ที่มีอยู่ในสังคม ซึ่งมีความสำคัญในการรักษาความยุติธรรมและความสงบเรียบร้อยในสังคม.


ความแตกต่างระหว่างฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญา

 

คดีแพ่ง คือ  กฎหมายว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของบุคคล เช่น เรื่องสภาพบุคคล ทรัพย์ หนี้ นิติกรรม ครอบครัว และมรดก เป็นต้น การกระทำผิดทางแพ่ง ถือว่าเป็นการละเมิดต่อบุคคลที่เสียหายโดยเฉพาะไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนอย่างการกระทำผิดอาญา 

คดีอาญา คือ กฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่รัฐบัญญัติขึ้นเพื่อกำหนดลักษณะของการกระทำที่ถือว่าเป็นความผิด และกำหนดบทลงโทษทางอาญาสำหรับความผิดนั้น เป็นกฎหมายที่บัญญัติว่า การกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดเป็นความผิด โดยพนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการรับแจ้งความร้องทุกข์

-โดยแยกข้อแตกต่างดั้งนี้

1.คดีแพ่ง ต้องให้ ทนายความ ฟ้อง ส่วนคดีอาญา จะฟ้องเอง หรือ ให้ตำรวจฟ้องให้ก็ได้

2.ค่าธรรมเนียมศาล คดีแพ่ง เป็นการฟ้องรียกเอาเงินหรือเอาทรัพย์สิน ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 แสนบาท เสียค่าธรรมเนียม 1 พันบาท ถ้าเกิน 3 แสน เสียค่าธรรมเนียมศาล 2% แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท

คดีอาญาคือการฟ้องขอให้ผู้กระทำความผิด/จำเลย ได้รับโทษทางอาญา ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล

 

ประเภทของการฟ้องแพ่ง มี 2 ประเภท

 

คดีแพ่งมีทั้งคดีที่ขอให้อีกฝ่ายชดใช้เงิน คืนของ จ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ หรือต้องการให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราจะเรียกคดีแบบนี้ว่า คดีมีข้อพิพาท และสำหรับคดีที่ไม่มีคู่ความเราจะเรียกว่า คดีไม่มีข้อพิพาท

  1. คดีมีข้อพิพาท จะมีคู่ความฝ่ายหนึ่งคือ “โจทก์” เป็นฝ่ายที่ยื่นคำฟ้อง อีกฝ่ายคือ “จำเลย” เป็นฝ่ายที่ถูกฟ้อง คดีมีข้อพิพาทจะฟ้องได้ต่อเมื่อมีการทำให้เกิดความเสียหาย หรือกระทบกับสิทธิที่เราจะต้องได้รับตามกฎหมาย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าฟ้องเพื่อเรียกร้องสิทธิที่มีตามกฎหมายของตัวเอง ฟ้องเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งทำตามหน้าที่ตัวเอง ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิ์ในการโต้แย้ง สืบหาความจริง เพื่อให้ศาลตัดสินว่าต้องชดใช้ให้กันมากน้อยแค่ไหน ต้องชดใช้ยังไงบ้างตามกฎหมายแพ่ง เช่นฟ้องให้จ่ายหนี้ ฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย ฟ้องเรียกค่าเสียหายลิกจ้างไม่เป็นธรรม ฟ้องเรียกค่าปรับคืน

ฟ้องเรียกค่านายหน้า

  1. คดีไม่มีข้อพิพาทเป็นคดีที่จะต้องร้องขอให้ตัวเองมีสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งจากศาล เพื่อให้มีการรับรองสิทธิที่ว่าตามกฎหมาย จะได้มีอำนาจในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ คดีแบบนี้ไม่มีคู่ความ แต่ถ้ามีคนยื่นขอคัดค้านภายในวันนัดใต่สวน ก็จะกลายเป็นคดีมีข้อพิพาทได้เหมือนกัน เช่นขอเป็นผู้จัดการมรดก ขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ขอทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ หรือสาบสูญ ขอแสดงสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ขอสิทธิการเลี้ยงดูบุตร

 

คดีแพ่ง ฟ้องยังไง และฟ้องที่ไหน

 

ถ้าต้องการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง เราต้องเสนอคดีไปที่ศาลในพื้นที่ที่เกิดเรื่องนั้น ๆ หรือตามที่อยู่ของฝ่ายที่ละเมิดเราแล้วแต่กรณี ถ้าเราไปฟ้องหรือร้องขอต่อศาลที่ไม่มีอำนาจพิจารณาคดีที่เราฟ้องไป ศาลก็จะรับฟ้องไว้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ทำให้ต้องเสียเวลาไปมาหลายรอบและเสียเงินมากกว่าเดิม โดยคนที่เราจะฟ้องให้เป็นจำเลยได้ต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล 

-คดีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ป.วิ.พ. มาตรา 4 ทวิ คำฟ้องเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิหรือ ประโยชน์อันเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ให้เสนอต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์ นั้นตั้งอยู่ในเขตศาล ไม่ว่าจำเลยจะมีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรหรือไม่ หรือต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่เขตศาล สรุป ยื่นฟ้องต่อศาลที่อสังหา ฯ นั้นตั้งอยู่ หรือตามที่อยู่ของจำเลย

คดีเกี่ยวกับหนี้เหนือบุคคล เช่น หนี้เงินกู้ หนี้ค่าจ้าง หนี้บัตรเครดิต คำฟ้อง ป.วิ.พ. มาตรา 4 ให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล หรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจำเลยจะมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่ สรุป ต้องยื่นฟ้องต่อศาลในพื้นที่ที่เกิดเรื่องขึ้น หรือตามที่อยู่ของจำเลย

-คำขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ป.วิ.พ มาตรา 4 จัตวา คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ให้เสนอต่อศาลที่ เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย ในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อ ศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาลยื่นคำร้องขอต่อศาลในพื้นที่ตามที่อยู่ของเจ้ามรดกก่อนตาย

การฟ้องคดีแพ่ง ทุกคนสามารถฟ้องได้ด้วยตัวเองเนื่องจากไม่มีการกำหนดเอาไว้ว่าต้องมีทนายความถึงจะฟ้องและดำเนินคดีได้ ถ้าสามารถดำเนินคดีเองได้ก็ต่อสู้คดีโดยไม่จำเป็นต้องมีทนายความ  แต่ถ้าเราไม่รู้วิธีดำเนินคดีหรือไม่มั่นใจเรื่องข้อกฎหมายก็อาจตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบได้ การขอคำปรึกษา เตรียมพยานหลักฐานให้พร้อมก่อนฟ้องจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะคดีแพ่งเป็นคดีที่ตัดสินแพ้ชนะตามพยานเอกสารและพยานวัตถุเป็นหลัก ส่วนพยานบุคคลจะเป็นพยานที่มีความสำคัญรองลงมา

 

ขั้นตอนการว่าจ้างทนายฟ้องคดีแพ่ง โดยมีขั้นตอนการว่าจ้าง ขั้นตอนการชำระเงิน การขึ้นศาลอย่างไง

 

1.ก่อนที่จะมาปรึกษาทนายความ เนื่องจากคดีแพ่งศาลจะตัดสินจากพยานเอกสารเป้นหลัก ดังนั้นจึงต้องต้องรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่หาได้ เช่น สัญญากู้ โฉนดที่ดิน  หลักฐานการโอนเงิน

2.เรียบเรียงเรื่องราว ไม่ว่าจะพิมพ์มาเป้นบทความหรือส่งอีเมลหรือจะเขียนใส่กระดาษ เนื่องจากจะทำให้ทนายความเข้าใจเรื่องราวและจับประเด็นได้ ทั้งช่วยทบทวนความจำและจะได้ไม่ลืม

3.มาพบและปรึกษาทนายความ เวลาก่อนจะยืนฟ้องคดีแพ่งถ้าเป็นคดีที่มีเอกสารเป้นจำนวนมาก มีความสลับสับซ่อน ไม่ว่าจะคุยผ่านโทรศัพท์หรือพิมพ์สนทนาคุยกันก็ดี จากประสบการณ์ของทนายความ การพูดคุยที่ดีที่สุด คือการเขามาพบและจับเขาพูดคุย เพราะจะได้สื่อสาร ตอบคำถามเชิงลึกได้ดีกว่า

4.เมื่อประเมินคดีแล้วว่าฟ้องได้ ว่ามีโอกาสชนะคดี ก็เซ็นสัญญาว่าจ้างทนายความ ตกลงค่าใช้จ่ายว่าจะชำระในรูปแบบไหน

5.ร่างและยื่นฟ้องคดีต่อศาล เมื่อยืนฟ้องแล้วกำหนดวันนัด

 

ค่าจ้างทนายในการฟ้องคดีแพ่งราคาเท่าไหร่

เนื่องจากทนายความไม่สามารถประกาศหรือโฆษณาค่าจ้างทนายในเว็บไซต์ได้ เนื่องด้วยข้อบังคับของสภาทนายความ ห้ามมิให้ทนายความโฆษณา หรือประกาศอัตราค่าจ้างว่าความ หรือโฆษณาว่าจะไม่เรียกร้องค่าทนาย ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วย มารยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 17

สอบถามค่าจ้างทนายความ ในการฟ้องลูกหนี้ ผ่านช่องทางไหนได้บ้าง

ทางโทรศัพท์ 02-125-2511

ทางไลน์ @tiwanonlaw

Facebook : สำนักงานทนายความติวานนท์

E-mail : info@tiwanonlaw.com

แผนที่ สำนักงานทนายความติววานนท์ 

ขอแนะนำให้ท่าน มาพบทนายด้วยตนเองดีที่สุด เพราะการสอบข้อเท็จจริงที่ดีที่สุดระหว่างทนายความกับลูกความ คือการมานั่งคุยกันต่อหน้า

การคุยกันทางโทรศัพท์ ทางไลน์ ทางอีเมล์ อย่างไรเสียก็สู้มานั่งคุยกันต่อหน้าไม่ได้ เพราะทำให้เข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆได้ละเอียดกว่า และสามารถซักถาม ทำความเข้าใจและจับกิริยาอาการต่างๆได้ดีที่สุด

สำนักงานทนายความติวานนท์ ให้บริการฟ้องคดีแพ่ง ฟ้องคดีอาญา ฟ้องหมิ่นประมาท ฟ้องชู้ ฟ้องขับไล่ ฟ้องลูกหนี้
การทำงานครอบคลุมถึง การออกโนติส การฟ้องคดีโดยตรง การทำงานร่วมกับตำรวจและพนักงานอัยการ
การร้องขอความเป็นธรรม การประกันตัวผู้ต้องหา การไต่สวนมูลฟ้อง การเขียนคำให้การของจำเลย การฟ้องแย้ง
การยื่นอุทธรณ์และการยื่นฎีกา รวมทั้งการสืบทรัพย์ การบังคับคดี และการตั้งเรื่องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด

อัตราค่าจ้างทนาย ต้องสอบถามทางบริษัทเท่านั้น สามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่อไปนี้

สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อทนาย

โทร

แชทไลน์

อีเมล

สำนักงาน

ทนายความ สำนักงานทนายความ สำนักงานกฏหมาย
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
อ่านบทความล่าสุด